วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ออมเงินได้แล้ว เอาเงินออมไปทำอะไรต่อดี


         นับว่าเป็นกระแสหนึ่งของสังคมทุกวันนี้เลย สำหรับการส่งเสริมการออม บางคนก็ออมด้วยเก็บแบงค์ 50 บาท บางคนก็ออมด้วยเศษเหรียญ บางคนก็ออมด้วยตัดเงินเข้าบัญชี บางคนก็ออมด้วยสลากออมสิน บางคนก็ออมด้วยสลากกินแบ่ง.. เฮ้ย! ไม่ใช่ละ


                เอาเป็นว่า พอออมเงินได้แล้ว หลายๆ คนก็งงกับตัวเอง ว่าออมมาได้ไง ออมแล้วจะทำยังไงต่อ เก็บเงิน เก็บเศษเหรียญมาทั้งปี มาดูอีกที มีตังค์เก็บมาตั้งหลายหมื่น เพื่อนชวนไปเที่ยวญี่ปุ่นพอดี เย้!””” เออ.. หมดกันพอดี

                หลังจากหลายคน เข้ามาเป็นสมาชิก คนออมเงินแล้ว ก็จะต้องเจออีกกระแสหนึ่งคือ ต้องลงทุน บางคนก็บอกว่า ต้องลงทุน ไม่ลงทุน เงินที่ออมมาจะโดนเงินเฟ้อกิน หรือ ต้องลงทุน ไม่งั้นจะไม่มีเงินพอใช้ยามเกษียณ แต่สุดท้ายแล้ว ให้ทำยังไงละ ลงทุนไม่เป็น ไม่มีความรู้เลย ไม่ได้เป็นนักธุรกิจนะ จะได้ลงทุนเป็น

                อยากจะบอกว่า เชื่อว่าทุกคนเคยลงทุน ให้เงินกู้มาทุกคนแล้วครับ เชื่อไหม? ทุกคนเคยเป็นเจ้าหนี้มาก่อน อะ ให้เวลานึกๆ ว่าเคยให้ใครยืมเงินไหม สมัยเด็กๆ เคยให้ใครยืมเงินไปหว่า.. (เอ ถ้านึกได้ นึกอีกนิดนะว่าได้คืนครบไหม ถ้าไม่ครบ ไงอ่านให้จบก่อน ค่อยไปทวงนะ) เอาละซิ หลายๆ คน คงนึก เกิดมาไม่เคยให้ใครยืมเงินซักหน่อย มาฟังเฉลยกันครับ

                เคยซิครับ ส่วนใหญ่ คุณทุกคนจะเคยให้ บุคคล คนหนึ่ง ยืมเงิน ยืมโดยมีเงื่อนไขที่ว่า จะต้องให้ดอกเบี้ยคุณด้วยนะ และ คุณจะขอเงินคืนเมื่อไรก็ได้ อืม.. เงื่อนไขดีทีเดียว แถม คุณขอคืนผ่านช่องทางต่างๆ ก็ได้นะ ขอคืน ผ่านตามสาขาก็ได้ ขอคือผ่าน ระบบอินเตอร์เน็ตก็ได้ หรือ ขอคืนผ่านตู้ ATM ก็ได้ นั้นแน่.. ใช่แล้วครับ บุคคลที่ผมพูดถึงก็คือ คุณให้นิติบุคคล อย่างธนาคาร ยืมเงินไปนั้นเอง ผ่านบัญชีเงินฝากของคุณไงครับ โดยมีสัญญายืมเงิน ที่จะให้ดอกเบี้ยคุณ ในแต่ละปี และคุณจะทวงคืนเมื่อไร ผ่านช่องทางอะไรก็ได้ ตามนั้นครับ

                เพียงแต่ เมื่อมันสะดวกขนาดนี้ ขอคืนเมื่อไรก็ได้ ที่ไหนก็ได้ สิ่งที่แลกมาก็คือ ดอกเบี้ยที่ต่ำมากนั้นเองครับ ที่นี่ ถ้าอยากได้ดอกเบี้ยมากขึ้นละ ทำอย่างไรได้บ้าง ก็ต้องมีเงื่อนไข อื่นๆ เข้ามาเพิ่มไงครับ เช่น
- จะให้ยืมนานขึ้น เช่น ต้องให้ยืมอย่างน้อย 3 เดือน 6 เดือน หรือก็คือการฝากประจำนั้นเอง
- ไม่เอาคืนบ่อยๆ นะ หรือ ก็คือ มีข้อจำกัดในการเอาเงินคืน เช่น บัญชีดอกเบี้ยสูง ของธนาคารต่างๆ ที่จำกัดจำนวนครั้งในการคืน หรือ จำกัดช่องทางในการคืนเงิน
นอกจากบัญชีเงินฝากต่างๆ แล้ว ก็ยังมีการลงทุนประเภทอื่นๆ ที่ทำผ่านธนาคารได้อีก เช่น
-  ซื้อสลากออมสิน หรือ ธกส. ที่คล้ายๆ ฝากประจำระยะยาว แต่แทนที่จะได้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยทั้งหมดอย่างเดียว ทางธนาคาร ก็แบ่งดอกเบี้ยเงินฝากระยะยาวนั้น มาเป็น รางวัลให้มาลุ้นกัน
-           ลงทุนผ่านกองทุนต่างๆ  ซึ่งก็มีอีกมากมายหลากหลายประเภท
จนไปถึงการ ลงทุนเองในพันธบัตรรัฐบาล หรือ หุ้นกู้ ของบริษัทต่างๆ ลงทุนผ่านตลาดหุ้น ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ

ซึ่งก่อนจะลงทุนในอะไร เราก็ต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนนะครับ เพราะการลงทุน แต่ละประเภท มีวัตถุประสงค์ต่างกัน หรือ หากมองเทียบเคียง ก็ต้องบอกว่า ให้ลองมอง การลงทุน แต่ละอย่าง เป็น Tool หรือ อุปกรณ์ในการใช้งาน ที่เราสามารถเลือกใช้ได้ เช่น อุปกรณ์ช่าง หากเราไม่รู้อะไรเลย เราก็รู้แค่ ค้อนเอาไว้ทุบ ไขควงเอาไว้ไข แต่หากเราศึกษา จะพบว่า มีคีม มีกุญแจปากตาย มีสว่านที่ต้องลงทุนหน่อย แต่สร้างความสะดวกให้เรา ทำให้เราทำงานได้ง่าย และเสร็จเร็วขึ้น การลงทุนต่างๆ ก็เช่นกันครับ หากเราศึกษา และวางเงินออม ไปลงทุน ได้ถูกที่ ถูกอุปกรณ์ ก็จะช่วยผ่อนแรง และ สร้างผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้นให้กับเราได้เช่นกัน มาเริ่ม หัดเดินการเงิน กันครับ

หัดเดินการเงิน

เริ่มเรียนรู้ เริ่มหัดเดินการเงิน กันครับ

ขอบคุณ ภาพประกอบจาก http://www.pixabay.com